21 ตุลาคม 2556

วันหยุดสุดขีด

ผมเชื่อว่า หลายคนเป็นเช่นนี้
  1. ตอนเรียนก็เรียน ไม่ค่อยเที่ยวเพราะไม่มีทุนทรัพย์
  2. เรียนจบไปก็ทำงานบริษัทเอกชน
  3. ทำงาน 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (6วัน)
  4. เริ่มมีเงิน เริ่มอยากไปเที่ยว
  5. แต่ พอไปเที่ยวก็ห่วงหน้าห่วงหลัง
  6. พอจะลา งานก็เข้า เจ้านายขออย่าเพิ่งลา
  7. สรุป ไม่ได้ไปไหน ทำงาน ทำโอทีต่อไป
ปัญหานี้เคยเกิดขึ้นกับผมเมื่อสมัยเรียนจบแล้วทำงานในบริษัทเอกชนเล็กๆ แถวนิคมอุตสาหกรรมแห่งแรกของประเทศไทย ทำงาน 6 วัน ชั่วโมงการทำงานมากกว่า 60 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หยุดแค่วันอาทิตย์วันเดียว ก็แค่พักเหนื่อยเอนกายนอนทั้งวันก็หมดแล้ว แต่ถ้าคิดแบบนั้น ก็คง ไม่ได้ไปไหนกันพอดี

วันนึง ผมนึกครึ้มอยากไปเที่ยว แค่อยากไปเท่านั้นโดยไม่รู้ว่าจะไปไหน กับใคร ที่ไหน และเมื่อไร ไม่มีการรวบรวมข้อมูลการเดินทาง มันเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ก่อนเลิกงาน 5 โมงเย็น เลิกงานไป กลับห้อง เก็บกล้อง และเสื้อกันหนาวใส่กระเป๋า เนื่องจากสภาพตอนนั้นอากาศเย็น นั่งรถไปที่ สถานีขนส่งหมอชิต โดยไม่รู้ว่า อนาคตจะเกิดอะไรขึ้น การเริ่มต้นการเดินทางคือการหาจุดหมายปลายทาง ในสิ่งที่ไม่เคยไปสัมผัส และสุดท้ายนั้น ผมเลือกที่นี่
จุดหมายที่ไม่รู้ปลายทาง
หลังจากขึ้นรถ ผมก็ลองพยายามติดต่อเพื่อน ซึ่งไม่ได้ติดต่อกันหลายปี ไม่รู้ว่าติดต่อยังได้อยู่ไหม เปลี่ยนเบอร์หรือยัง แต่ เดชะบุญที่เคยสั่งสมมา ปลายสายรับโทรศัพท์ เราก็บอกเลยว่า จะไปหา พาเที่ยวหน่อย ปลายสายเกิดอาการ งงๆ แต่สุดท้าย เค้าบอกว่า จะนัดเพื่อนให้ด้วยละกัน ซึ้งใจมากๆ พอเช้าตื่นมา รถก็มาเทียบชานชลาจังหวัดหนองคาย ตามประสา ถ่ายรูปซะหน่อย
สะพานข้ามแม่น้ำโขง ยามเช้า
หลังจากหาอาหารท้องถิ่นกินเรียบร้อย ต่อไป ก็ไปหาเพื่อนตามที่นัดหมาย เนื่องจากเป็นการเดินทางในต่างประเทศครั้งแรกในชีวิตด้วยตัวเองนั้น หนังสือเดินทางอะไรก็ไม่มี ต้องไปพึ่งการติดต่อการทำหนังสือเดินทางชั่วคราว และก็ได้เวลา อำลาประเทศไทย คือการไม่เคยไป ก็ต้อง ตามๆคนข้างหน้าไปแบบ งงๆ

ด่านที่ สปป.ลาว
ด่านที่หนองคาย 









จากการข้ามแดนมาก่อนเวลาที่นัดหมาย ก็เลยได้ถ่ายภาพเก็บบรรยากาศที่ด่าเรื่อยๆ พร้อมกับการกินเบียร์ลาว (มาถึงก็ต้องลองซักนิด) หลังจากนั้นก็ทำการแลกเงิน เป็นสกุล กีป เพื่อใช้จ่ายที่ถูกกว่าเงินไทย
จากเงิน 500 บาทไทย
กินแอลกอฮอล์แต่เช้าเลย
ทางขึ้นประตูชัย
หลังจาก เพื่อนๆจากฝั่งลาวมารับ เพื่อนๆผมนี่เป็นนักกีฬา รู้จักกันตอนทำงานเป็นอาสาสมัคร ซีเกมส์ที่โคราช เนื่องจากเป็นประเทศเดียวที่คุยกันรู้เรื่อง (คุยง่ายกว่าคนไทยด้วยกันอีก) โดยไม่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ สถานที่แรกที่พาไปก็คือ ประตูชัย การที่จะขึ้นไปได้นั้น ต้องมีการเสียค่าเข้าชม แต่เนื่องจาก เพื่อนผม เส้นใหญ่ (มารู้ว่าเป็นใครทีหลัง) ไปไหนก็มีแต่คนรู้จัก แถม้ราก็หล้าออกลาวๆซะด้วย เนียนฟรีสิพี่น้อง

ภาพจากมุมสูง
ประตูชัย




















หลังจากเก็บภาพสวยๆมาได้แล้วนั้นสถานที่ต่อไป คือพระธาตุหลวง พุทธสถานเชียงควน และหอพระแก้ว (ต้นแบปฏิมากรรม อุโบสถวันพระศรีรัตนศาสดารามหรือวัดพระแก้ว กทม) ซึ่งตลอดทาง เพื่อนผมก็นำทางไม่หวาดหวั่น และถามตลอดว่าอยากไปไหน แต่ในเมื่อเราไม่มีข้อมูลอะไรเลย ดีงนั้นง่ายๆ อยากให้ไปไหน ก็ไป
พระธาตุหลวง
มุมย้อนแสง
พุทธสถาน เชียงควน
วัดพระแก้ว
ก่อนกลับ ก็พากันไปกินข้าวกันซะหน่อย เนื่องจากด่านปิด 18:00น. เลยต้องทำเวลากันบ้าง อาหารอร่อยดีครับ แถมกินกับของสิ่งนี้ ยิ่งอร่อยขึ้น ราคาก็ไม่แพงด้วย หมดไป แสนสาม...
เบยลาว 1 แก้ว(ที่นั่น แก้ว หมายความว่าขวด)
อธิบายอย่างละเอียดเลย
เพื่อนบอกว่า จะแกล้งให้ไปไม่ทันด่านปิด ผมเลยบอกอย่าแกล้งกันเลย ก็เลยไปสงที่ด่านประมาน 5 โมงกว่าๆ แถมยังบอกว่า ระวังเค้าไม่ให้ข้ามนะ หุหุ (เส้นใหญ่เสียจริงๆ) ก่อนกลับ ลองแวะที่ duty free ซะหน่อยว่าเค้ามีไรขาย ส่วนมากก็เป็นสุรา รองเท้า กระเป๋า ส่วนผมหรอ ไม่ได้ซื้อไรหรอก เดินชมไปเรื่อยๆ และก็ได้เวลากลับซะที
ดวงอาทิตย์ตกกลางแม่น้ำโขง
หลังจากกลับมาแล้วนั้น ก็ไปที่ขนส่งททันที เพื่อดูเที่ยวรถที่จะกลับไปทำงานในวันจันทร์ หรือวันรุ่งขึ้นนั่นเอง
ได้เวลาเดินทางกลับ
ถึงหมอชิตประมานตี5 เห็นจะได้ นั่งรถต่อเพื่อกลับหแอล้วไปที่ทำงานได้ทันก่อนเวลา 8 โมงอย่างเฉียดฉิว เนื่องจากการมาสาย หักเงินด้วย 

เห็นไหมว่า ไม่ว่าคุณจะทำงานอะไร มีเวลาน้อยแค่ไหน แต่ถ้าคุณคิดจะปลดปล่อยวิถีแห่งการเดินทางแล้ว มันก็คุ้มที่เราจะพร้อมเดินทางไปกับมัน ทริปนี้ ใช้เวาทั้งหมดรวมเดินทางเป็นจำนวน 37 ชั่วโมงเท่านั้น ถ้าใครสนใจ ลองทำดูบ้างก็ได้ แบบนี้สิที่เขาเรียกกันว่า "วันหยุดสุดขีด"

สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณ เพื่อนๆ น้องๆ ทั้ง 3 ที่นำทางตลอด 1 วันที่ สปป.ลาว
น้องแหม่ น้องตุ๊กตา และน้องบิลลี่ มากๆครับ
บิลลี่ ตุ๊กตา และแหม่ม
ถ้าในนี้รูปดูไม่จุใจ สามารถดูได้เพิ่มเติมที่ 

เวลาไม่ใช่สิ่งสำคัญ สำคัญแค่ว่า คุณกล้าพอหรือไม่ที่จะใช้เวลา
iPhotoIndy

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น