หัวข้อฟังดูแปลกๆ แต่สำหรับผู้ที่นั่งเครื่องบินบ่อยๆ กลางอากาศจะมีอะไร สบายๆ
แต่ ครั้งแรกกับกลางอากาศ ของผมไม่ใช่เครื่องบินครับ แต่คือ บอลลูนอากาศร้อน
บอลลูนอากาศร้อนก็คือ บอลลูนที่บรรจุอากาศร้อนๆจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลงเข้าไป
ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์คือ อากาศร้อนจะลอยขึ้นบน และเมื่อบอลลูนบรรจุอากาศร้อนมากๆ
ก็จะพาเราลอยละลิ่วขึ้นไปได้ แล้วยังไงนะหรอ ที่อยู่ดีดีไปมีประสบการณ์แบบนี้ได้อย่างไร มาชมกัน
|
บอลลูนอากาศร้อน |
นับถอยหลังไปเมื่อ 2 ธันวาคม 2551 หรือเมื่อเกือบ 5 ปีที่แล้วนั้น ผมได้มีโอกาสไปถ่ายรูป งาน Thailand International Bollon Festival ครั้งที่ 2 โดยได้เดินทางไปกับพี่เก๋ gzz และ พี่โอ๊ต fatboy โดยงานได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่สอง สถานที่ที่จัดก็คือ ศูนย์ฝึกสุนัขทหารปากช่อง หลังจากที่ไปถึง เราต่างคนก็ต่างแยกย้ายไปเก็บภาพมุมต่างๆ ในแนวของตัวเอง ส่วนมากการถ่ายบอลลูนก็เล่นกับแสงดวงอาทิตย์นั่นละ ง่ายสุดละ เพราะตัวบอลลูนเองจะมีสีที่สวยงามอยู่แล้ว ทำให้เราสามารถถ่ายได้อย่างสบายๆ แถมแสงดีแบบนี้ สุดยอดเลยละครับ
|
มุมย้อนแสง |
|
ลอบละลิ่วววว |
และเนื่องจากเค้าให้คนขึ้นบอลลูนไปด้วย โดยผู้ที่ขึ้นบอลลูนส่วนมากก็จะมีแต่ผู้หลักผู้ใหญ่ นายทหาร คณะทั้งหลายแหล่ แต่!!! มีบอลลูน 1 ลูก ที่เรียกคนแล้ว แต่ไม่มีใครมา พี่เก๋ก็เลยไปสนทนาภาษาอังกฤษ กับผู้คุมบอลลูนนั้น ซึ่งตอนนี้ บอลลูนก็พร้อที่จะขึ้นแล้ว ดังนั้นทางผู้คุมบอลลูนเลย โอเค มาเลย 2 คน หลังจากนั้น บอลลูนก็ลอยยยยยย
|
เตรียมลอยยยย!!! |
ระหว่างลอยขึ้น โทรหาพี่โอ๊ต fatboy บอกว่า พี่ ผมอยู่ที่แชล็ค ซึ่งลอยไปแล้ว เลยเกิดอาการงอนกันนิดหน่อย ก็แน่ละ จะมาแค่ถ่ายภาคพื้น แต่อยู่ดีดี ก็ได้ลอยฟ้าซะอย่างนั้น เป็นใครใครก็อิจฉาใช่มะละครับ
|
กำลังลอยขึ้น |
เท่าที่ดูการควบคุมนั้นไม่อยาก ถ้าอยากลอยสูงๆ เราก็ปรับไฟแรงๆ ถ้าอยากลงต่ำ ก็ปล่อยอากาศออกด้านบน เท่าที่ผมดูก็ง่ายนะครับ บอลลูนที่ผมกับพี่เก๋ขึ้นไปนั้น มีนักบิน 2 ท่าน ท่านแรกเป็นอาจารย์สอนการขับบอลลูน ท่านที่สองเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ ซึ่งเป็นชาวชาติไหนก็จำไม่ได้ แต่รุ้ว่าเป็นทางโซนยุโรป
|
สถานที่จัดงาน มุมสูง |
|
ถนนมิตรภาพ มุมสูง |
ในระหว่างอยู่กลางอากาศนั้นอาจารย์ก็สอนลูกศิษย์ในการบังคับไฟไปเรื่อย โดยไม่สนใจสองคนที่เป็นผู้โดยสารซะเท่าไร เนื่องจากผู้โดยสาร ก็ไม่ได้สนใจคนขับ มัวแต่สนใจกับการมีประสบการณ์ในการขึ้นบอลลูน สำหรับผม นั่นคือครั้งแรกที่ได้ลอยในอากาศ ไม่นับรวมการโดดหอนะครับ อันนั้นยังมีเซฟตี้ แต่อันนี้ แค่กระเช้า ส่วนพี่เก๋นั้น อาจจะขึ้นเครื่องบินบ่อย แต่สำหรับบอลลูน ก็ไม่ทราบเหมือนกัน
|
การควบคุมบอลลูน |
ในระหว่างทาง เราได้เข้าใจคำว่า "มุมมองนก" ได้ชัดเจนขึ้น เราได้มุมมองใกม่ที่ไม่เคยสัมผัส ได้เห็นถนนเล็กๆ เห็นทุ่งนา เห็นน้ำในเขื่อนลำตะคลอง เห็นผู้คน ชาวบ้าน เด็กๆที่บอลลูนบินผ่านแล้วออกมาโห่ร้องต้อนรับ เป้นภาพที่ประทับใจ ไม่มีวันลืมสำหรับผมเลย
|
เด็กและชาวบ้านที่กำลังดูบอลลูน |
|
ทุ่งนามุมสูง |
เสียงชัตเตอร์ของกล้อง 2 ตัว รัวแข่งกับ เสียงลม และคำสอนของอาจารย์ที่สอนลูกศิษย์บิน ลอยมาเป็นระยะๆ ในบอลลูนก็จะมี ถังเชื้อเพลง GPS และ เครื่องบอกระดับความสูง ซึ่งผมก็ไม่แปลกใจอะไรนัก ระยะทางที่พาเราไป ไกลพอสมควร เราลอยตามกระแสลมไปเรื่อยๆ อย่างมีความสุข อีกอย่างบอลลูนที่ขึ้น เป็นบอลลูนที่ออกตัวหลังๆ ทำให้เราเก็บภาพมุมย้อนแสงของบอลลูนลำหน้าได้เลย
|
ลอยกันเป็นแถวๆ |
|
บอลลูนทางขวามือ เป็นบอลลูนไม่มีกระเช้า |
ผมลืมบอกทุกท่านไปว่า บอลลูน ไม่มีหางเสือ แต่สามารถบังคับให้เฉียงซ้ายขวาได้ ดังนั้น ถ้าอยู่ดีดี ลมไม่พัด!!! บอลลูนก็จะอยู่กับที่ หรือ ถ้าลมแรงเกินไป ก็ไม่ดี บังคับยาก ทำให้เกิดอันตรายได้
งานบอลลูนมีอยู่ 5 วันซึ่งผมไป 4 วัน ด้วยระยะทางไปกลับมากกว่า 150 กิโลเมตร ซึ่งไม่รักการถ่ายภาพจริงไ คงไม่มีใครทำ และซึ่งเป็นความโชคดีที่ว่า วันอื่นๆ บอลลูนไม่สามารถลอยขึ้นได้เลย เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ลมพัดกระโชค ถ้าจำไม่ผิด ในวันที่ 3 หรือ 4 นี่ละ บอลลูนกระชากรถคำ่ทั้งคัน ออกข่าวด้วยนะ แถมอยู่ในเหตุการณ์ต่อหน้าต่อตา คือ ถ้าไม่ลอย เค้าจะโชว์โดยการ ปล่อยลมร้อนเข้าไปพอให้บอลลูนตั้งได้แล้วผูกกับถ้าบรถ ส่วนมากก็เป็นรคปิคอัพ
|
ใกล้ถึงจุดลงจอด |
|
ถึงจดจอดแล้ว |
เมื่อถึงเป้าหมายที่จะร่อนจอด ทางผุ้ขับก็จะบอกเราให้เตรียมเซฟตี้อุปกรณ์ไว้ ซึ่งเราก็ทำแบบ งงๆ ทำไมต้องเซฟตี้ ซึ่งเมื่อถึงพื้นเราก็ได้รู้คำตอบ ในการร่อนลงนั้น ทางผู้ขับจะบังคับให้ร่อนไปในจุดเป้าหมาย และทำการปล่อยลมออกด้านบน เพื่อให้บอลลูนลดเพดาลงต่ำมาเรื่อยๆ โดยไม่กระชากค่อยๆปล่อย ก็รู้สึก ไม่น่าจะห่วงอะไร แต่ก็จะหยุดให้บอลลูนลอยอยู่ห่างจากพื้นประมาณ 4-5 เมตร ดับไฟแล้วก็เริ่มนับถอยหลัง ทรี ทู วัน โก นักบินปล่อยให้ลมร้อนออกจากบอลลูน ซึ่งนี่ละเหตุผลที่ทำไมต้องทำการเซฟตี้ตัวเองและอุปกรณ์ ลองคิดสภาพครับ วัตถุชิ้นหนึ่ง มวลเยอะพอควน ตกลงมาในแนวดิ่งตามแรงโน้มถ่วงของโลก ประมาณ 4-5 เมตร เมื่อกระเช้าสัมผัสพื้น สะเทือนไปถึงขนตาเลยครับ
|
ขอซักหน่อย |
เมื่อบอลลูนลงสู่พื้น สิ่งที่ทำคือ ต้องรีบออกจากกระเช้า นักบินจะตะแคงกระเช้าและเริ่มไล่สายเก็บตัวบอลลูนต่อไป ซึ่งได้ช่วยเก็บอยู่ ในส่วนนี้ต้องคอยระวังไม่ให้เกี่ยวกับกิ่งไม้ หรือสิ่งมีคมไดไดทั้งสิ้น เนื่องจากถ้าบอลลูนมีรูหรือขาดจะทำให้ลมร้อนรั่วได้ ซ่อมกันบานแน่ครับ
หลังจากช่วยกันเก็บ เราก็ยกกระเช้าขึ้นรถปิคอัพที่มารอรับและโดยสารกลับไปที่สถานที่จัดงานพร้อมๆกัน ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆเห็นจะได้ นี่ละครับ ประสบการณ์ชีวิตจากกลางอากาศที่ผมได้รับ มันน่าสนุก น่ากลัว น่าตื่นเต้น หน้าหวาดเสียว เป็นประสบการณ์ที่ไม่รู้ว่าในหนึ่งชีวิต จะได้มีโอกาสอีกหรือไม่
|
ผู้ขับและผู้ฝึกสอนบอลลูน |
ที่เขียนมาตรงนี้ก็เพราะอยากจะแชร์ประสบการณ์และภาพให้กับคนที่ไม่มีโอกาสได้ทำได้สัมผัสแบบผม เป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนกระตุ้นต่อมอยากเที่ยว ผมจำไม่ได้ว่า งานบอลลูน 2556 ที่จะจัดที่เชียงใหม่ จะจัดวันไหน แต่เท่าที่ทราบคือ หลังๆจะไม่มีการปล่อบบอลลูน จะมีแค่โชว์ให้บอลลูนพองเฉยๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายมาก เพราะ ประสบการณ์แบบนี้ หาไม่ได้ที่ไหนในประเทศไทยอีกแล้ว
iPhotoindy