30 พฤศจิกายน 2556

ท้าตะวัน

มุมย้อนแสง
คงได้ยินข่าวเกี่ยวกับดาวหางมาบ้าง ว่า ดาวหาง ison รอดจากดวงอาทิตย์ แต่ เท่าที่ตามดู เหมือนไม่รอด ก็รอชมต่อไป ท้าตะวัน เชื่อว่าหลายนเคยถ่ายดวงอาทิตย์เล่น ถึงแม้จะห้ามไม่ฟังก็ตาม เพราะ กล้องถ่ายรูปที่เราใช้ๆกันนั้น เลนส์ด้านหน้าเป็นเลนส์รวมแสง ขึนไปส่องนานๆ อาจจะทำลายดวงตาอันบอบบางได้ แต่ก็ยังมีพวกที่บ้า และลองเล่นดู อย่าผม ผมถ่ายภาพย้อนแสง มาเยอะ แต่ที่สุดแล้วที่เคยถ่ายมา ชอบอยู่ภาพเดียวละ ไม่รู้เพราะอะไร ไม่ว่าจะองค์ประกอบ ทิศทางแสง หรือแฟร์ที่ได้มา อันนี้ก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมชอบ ใครจะชอบบ้าง แต่สำหรับผู้ที่อยากลอง ก็ขอให้ระวังเรื่องสุขภาพตากันด้วยนะครับ


iPhotoIndy

22 พฤศจิกายน 2556

ประสบการณ์กลางอากาศ

หัวข้อฟังดูแปลกๆ แต่สำหรับผู้ที่นั่งเครื่องบินบ่อยๆ กลางอากาศจะมีอะไร สบายๆ
แต่ ครั้งแรกกับกลางอากาศ ของผมไม่ใช่เครื่องบินครับ แต่คือ บอลลูนอากาศร้อน
บอลลูนอากาศร้อนก็คือ บอลลูนที่บรรจุอากาศร้อนๆจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลงเข้าไป
ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์คือ อากาศร้อนจะลอยขึ้นบน และเมื่อบอลลูนบรรจุอากาศร้อนมากๆ
ก็จะพาเราลอยละลิ่วขึ้นไปได้ แล้วยังไงนะหรอ ที่อยู่ดีดีไปมีประสบการณ์แบบนี้ได้อย่างไร มาชมกัน
บอลลูนอากาศร้อน
นับถอยหลังไปเมื่อ 2 ธันวาคม 2551 หรือเมื่อเกือบ 5 ปีที่แล้วนั้น ผมได้มีโอกาสไปถ่ายรูป งาน Thailand International Bollon Festival ครั้งที่ 2 โดยได้เดินทางไปกับพี่เก๋ gzz และ พี่โอ๊ต fatboy โดยงานได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่สอง สถานที่ที่จัดก็คือ ศูนย์ฝึกสุนัขทหารปากช่อง หลังจากที่ไปถึง เราต่างคนก็ต่างแยกย้ายไปเก็บภาพมุมต่างๆ ในแนวของตัวเอง ส่วนมากการถ่ายบอลลูนก็เล่นกับแสงดวงอาทิตย์นั่นละ ง่ายสุดละ เพราะตัวบอลลูนเองจะมีสีที่สวยงามอยู่แล้ว ทำให้เราสามารถถ่ายได้อย่างสบายๆ แถมแสงดีแบบนี้ สุดยอดเลยละครับ
มุมย้อนแสง
ลอบละลิ่วววว
และเนื่องจากเค้าให้คนขึ้นบอลลูนไปด้วย โดยผู้ที่ขึ้นบอลลูนส่วนมากก็จะมีแต่ผู้หลักผู้ใหญ่ นายทหาร คณะทั้งหลายแหล่ แต่!!! มีบอลลูน 1 ลูก ที่เรียกคนแล้ว แต่ไม่มีใครมา พี่เก๋ก็เลยไปสนทนาภาษาอังกฤษ  กับผู้คุมบอลลูนนั้น ซึ่งตอนนี้ บอลลูนก็พร้อที่จะขึ้นแล้ว ดังนั้นทางผู้คุมบอลลูนเลย โอเค มาเลย 2 คน หลังจากนั้น บอลลูนก็ลอยยยยยย
เตรียมลอยยยย!!!
ระหว่างลอยขึ้น โทรหาพี่โอ๊ต fatboy บอกว่า พี่ ผมอยู่ที่แชล็ค ซึ่งลอยไปแล้ว เลยเกิดอาการงอนกันนิดหน่อย ก็แน่ละ จะมาแค่ถ่ายภาคพื้น แต่อยู่ดีดี ก็ได้ลอยฟ้าซะอย่างนั้น เป็นใครใครก็อิจฉาใช่มะละครับ
กำลังลอยขึ้น
เท่าที่ดูการควบคุมนั้นไม่อยาก ถ้าอยากลอยสูงๆ เราก็ปรับไฟแรงๆ ถ้าอยากลงต่ำ ก็ปล่อยอากาศออกด้านบน เท่าที่ผมดูก็ง่ายนะครับ บอลลูนที่ผมกับพี่เก๋ขึ้นไปนั้น มีนักบิน 2 ท่าน ท่านแรกเป็นอาจารย์สอนการขับบอลลูน ท่านที่สองเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ ซึ่งเป็นชาวชาติไหนก็จำไม่ได้ แต่รุ้ว่าเป็นทางโซนยุโรป
สถานที่จัดงาน มุมสูง
ถนนมิตรภาพ มุมสูง
ในระหว่างอยู่กลางอากาศนั้นอาจารย์ก็สอนลูกศิษย์ในการบังคับไฟไปเรื่อย โดยไม่สนใจสองคนที่เป็นผู้โดยสารซะเท่าไร เนื่องจากผู้โดยสาร ก็ไม่ได้สนใจคนขับ มัวแต่สนใจกับการมีประสบการณ์ในการขึ้นบอลลูน สำหรับผม นั่นคือครั้งแรกที่ได้ลอยในอากาศ ไม่นับรวมการโดดหอนะครับ อันนั้นยังมีเซฟตี้ แต่อันนี้ แค่กระเช้า ส่วนพี่เก๋นั้น อาจจะขึ้นเครื่องบินบ่อย แต่สำหรับบอลลูน ก็ไม่ทราบเหมือนกัน
การควบคุมบอลลูน

ในระหว่างทาง เราได้เข้าใจคำว่า "มุมมองนก" ได้ชัดเจนขึ้น เราได้มุมมองใกม่ที่ไม่เคยสัมผัส ได้เห็นถนนเล็กๆ เห็นทุ่งนา เห็นน้ำในเขื่อนลำตะคลอง เห็นผู้คน ชาวบ้าน เด็กๆที่บอลลูนบินผ่านแล้วออกมาโห่ร้องต้อนรับ เป้นภาพที่ประทับใจ ไม่มีวันลืมสำหรับผมเลย
เด็กและชาวบ้านที่กำลังดูบอลลูน
ทุ่งนามุมสูง
เสียงชัตเตอร์ของกล้อง 2 ตัว รัวแข่งกับ เสียงลม และคำสอนของอาจารย์ที่สอนลูกศิษย์บิน ลอยมาเป็นระยะๆ ในบอลลูนก็จะมี ถังเชื้อเพลง GPS และ เครื่องบอกระดับความสูง ซึ่งผมก็ไม่แปลกใจอะไรนัก ระยะทางที่พาเราไป ไกลพอสมควร เราลอยตามกระแสลมไปเรื่อยๆ อย่างมีความสุข อีกอย่างบอลลูนที่ขึ้น เป็นบอลลูนที่ออกตัวหลังๆ ทำให้เราเก็บภาพมุมย้อนแสงของบอลลูนลำหน้าได้เลย
ลอยกันเป็นแถวๆ
บอลลูนทางขวามือ เป็นบอลลูนไม่มีกระเช้า
ผมลืมบอกทุกท่านไปว่า บอลลูน ไม่มีหางเสือ แต่สามารถบังคับให้เฉียงซ้ายขวาได้ ดังนั้น ถ้าอยู่ดีดี ลมไม่พัด!!! บอลลูนก็จะอยู่กับที่ หรือ ถ้าลมแรงเกินไป ก็ไม่ดี บังคับยาก ทำให้เกิดอันตรายได้
งานบอลลูนมีอยู่ 5 วันซึ่งผมไป 4 วัน ด้วยระยะทางไปกลับมากกว่า 150 กิโลเมตร ซึ่งไม่รักการถ่ายภาพจริงไ คงไม่มีใครทำ และซึ่งเป็นความโชคดีที่ว่า วันอื่นๆ บอลลูนไม่สามารถลอยขึ้นได้เลย เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ลมพัดกระโชค ถ้าจำไม่ผิด ในวันที่ 3 หรือ 4 นี่ละ บอลลูนกระชากรถคำ่ทั้งคัน ออกข่าวด้วยนะ แถมอยู่ในเหตุการณ์ต่อหน้าต่อตา คือ ถ้าไม่ลอย เค้าจะโชว์โดยการ ปล่อยลมร้อนเข้าไปพอให้บอลลูนตั้งได้แล้วผูกกับถ้าบรถ ส่วนมากก็เป็นรคปิคอัพ
ใกล้ถึงจุดลงจอด
ถึงจดจอดแล้ว
เมื่อถึงเป้าหมายที่จะร่อนจอด ทางผุ้ขับก็จะบอกเราให้เตรียมเซฟตี้อุปกรณ์ไว้ ซึ่งเราก็ทำแบบ งงๆ ทำไมต้องเซฟตี้ ซึ่งเมื่อถึงพื้นเราก็ได้รู้คำตอบ ในการร่อนลงนั้น ทางผู้ขับจะบังคับให้ร่อนไปในจุดเป้าหมาย และทำการปล่อยลมออกด้านบน เพื่อให้บอลลูนลดเพดาลงต่ำมาเรื่อยๆ โดยไม่กระชากค่อยๆปล่อย ก็รู้สึก ไม่น่าจะห่วงอะไร แต่ก็จะหยุดให้บอลลูนลอยอยู่ห่างจากพื้นประมาณ 4-5 เมตร ดับไฟแล้วก็เริ่มนับถอยหลัง ทรี ทู วัน โก นักบินปล่อยให้ลมร้อนออกจากบอลลูน ซึ่งนี่ละเหตุผลที่ทำไมต้องทำการเซฟตี้ตัวเองและอุปกรณ์ ลองคิดสภาพครับ วัตถุชิ้นหนึ่ง มวลเยอะพอควน ตกลงมาในแนวดิ่งตามแรงโน้มถ่วงของโลก ประมาณ 4-5 เมตร เมื่อกระเช้าสัมผัสพื้น สะเทือนไปถึงขนตาเลยครับ 
ขอซักหน่อย
เมื่อบอลลูนลงสู่พื้น สิ่งที่ทำคือ ต้องรีบออกจากกระเช้า นักบินจะตะแคงกระเช้าและเริ่มไล่สายเก็บตัวบอลลูนต่อไป ซึ่งได้ช่วยเก็บอยู่ ในส่วนนี้ต้องคอยระวังไม่ให้เกี่ยวกับกิ่งไม้ หรือสิ่งมีคมไดไดทั้งสิ้น เนื่องจากถ้าบอลลูนมีรูหรือขาดจะทำให้ลมร้อนรั่วได้ ซ่อมกันบานแน่ครับ


หลังจากช่วยกันเก็บ เราก็ยกกระเช้าขึ้นรถปิคอัพที่มารอรับและโดยสารกลับไปที่สถานที่จัดงานพร้อมๆกัน ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆเห็นจะได้ นี่ละครับ ประสบการณ์ชีวิตจากกลางอากาศที่ผมได้รับ มันน่าสนุก น่ากลัว น่าตื่นเต้น หน้าหวาดเสียว เป็นประสบการณ์ที่ไม่รู้ว่าในหนึ่งชีวิต จะได้มีโอกาสอีกหรือไม่ 

ผู้ขับและผู้ฝึกสอนบอลลูน
ที่เขียนมาตรงนี้ก็เพราะอยากจะแชร์ประสบการณ์และภาพให้กับคนที่ไม่มีโอกาสได้ทำได้สัมผัสแบบผม เป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนกระตุ้นต่อมอยากเที่ยว ผมจำไม่ได้ว่า งานบอลลูน 2556 ที่จะจัดที่เชียงใหม่ จะจัดวันไหน แต่เท่าที่ทราบคือ หลังๆจะไม่มีการปล่อบบอลลูน จะมีแค่โชว์ให้บอลลูนพองเฉยๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายมาก เพราะ ประสบการณ์แบบนี้ หาไม่ได้ที่ไหนในประเทศไทยอีกแล้ว


iPhotoindy

11 พฤศจิกายน 2556

นวลนาง ณ บางปู

เข้าสู่ฤดูหนาว หลายทีมถ่ายภาพเริ่มที่จะไปที่นี่ สถาที่ที่อยู่ใก้กรุงเทพแค่ไม่กี่กิโล
เดินทางสะดวก ถึงแม้จะไม่มีรถยนต์ส่วนบุคคลก็ตาม สถานที่นั้นคือ "สถานตากอากาศ บางปู"
ภาพจากกล้องโลโม่ TLR
บางปูมีอะไร บางปูในฤดูหนาว จะมีนกนางนวล อพยพหนีหนาว มาจากทางเหนือ ซึ่งตรงกับช่วงนี้พอดี จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นหลายท่านออกไปล่าถ่ายนก เก็บช๊อตสุดมัน และให้อาหารนกด้วยวิธีที่สนุกสนาน
คนเยอะมาก
หลักการถ่ายรูกนกนั้น ไม่ได้มีอะไรยาก speed shutter เป็นสิ่งที่สำคัญ ISOจึงเป็นสิ่งสำคัญบางครั้งเราต้องยอมให้เกิด noise เพื่อที่จะหยุดนกที่บินด้วยความเร็วได้
noise ที่เกิดจากการเร่ง iso
แต่ถ้าเราไปในเวลาที่เร็วกว่านั้น เราจะได้ภาพที่ ฟ้าเป็นสีฟ้า และไม่ต้องเร่ง ISO ด้วย
มุมเงย

โฉบรับอาหาร
สำหรับการเดินทางไป สถานตากอากาศบางปู
  1. สำหรับผู้มีรถยนต์ เดินทางมาจากกรุงเทพ หรือทางภาคตะวันออก จากสี่แยกบางนา มุ่งหน้าถนนสุขุมวิท ผ่านแบริ่ง ปากน้ำ ขับตามถนนมาเรื่อยๆ จะผ่านเมืองโบราณ นิคมอุตสาหกรรมบางปู เมื่อถึงนิคมอุตสาหกรรมบางปู ให้ชิดขวา กลับรถ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปได้เลย
  2. สำหรับผู้ที่โดยสารกับขนส่งสาธารณะ จากสี่แยกบางนา ให้นั่งรถเมล์ จากฝั่งไบเทค ถนนสุขุมวิท (BTS บางนา) มาลงที่ ปากน้ำ และต่อรถสาย 36 สีเขียว (นิคมอุตสาหกรรมบางปู) หรือ สีขาว (โลตัสบางปู) ให้ลงที่หน้าปากทางเข้านิค แล้วข้ามถนน ก็จะเจอทางเข้าเช่นกัน


จากการเดินทางแล้ว ไม่ยากเลยสำหรับผู้ที่วนใจ และชื่นชอบ หวังว่าจะเห็นนักท่องเที่ยวไปกันเยอะๆนะครับ


ปล. ยุงเยอะมาก ดุมาก เจาะกางเกงยีนส์เข้า กรุณาเตรียมอุปกรณืกันยุงไปด้วย

ภาพสวยไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ดี
iPhotoIndy